แดดกับการออกกำลังกายเรียกได้ว่าแทบจะเป็นของคู่กัน ใครที่โชคดีได้ออกกำลังกายในยิมไม่โดนแดดก็โชคดีไป แต่สำหรับใครที่ชอบเล่นกีฬากลางแจ้งเนี่ยสิปัญหาใหญ่ เพราะนอกจากจะร้อนทรมานแล้วผิวก็ยังเสียไปด้วย แต่ไม่ต้องเป็นกังวลอีกต่อไป เพราะในปัจจุบันก็มีนวัตกรรมจากครีมกันแดดมากมายให้พวกเราได้เลือกใช้ให้เหมาะสม แต่กีฬาประเภทไหนจะต้องใช้ครีมกันแดดป้องกันเท่าไหร่กันบ้าง เราไปดูพร้อม ๆ กันเลย

เรียนรู้วิธีการอ่านค่าของครีมกันแดด แรกเริ่มพื้นฐานที่สาว ๆ คนไหนก็ไม่ควรพลาด

ก่อนจะทำความเข้าใจเรื่องค่า SPF และค่า PA+ นั้น สาว ๆ ควรรู้จักเจ้ารังสีสองตัวที่มาพร้อมกันกับแดดเสียก่อน นั่นก็คือ รังสี UVA และ รังสี UVB ซึ่งทั้งสองรังสีนั้นต่างก็ทำลายเม็ดสีผิวของเราจากที่ขาวกระจ่างใสให้หมองคล้ำ แถมยังทำลายเซลล์ผิวชั้นในให้ได้รับบาดเจ็บจนแสบเคืองนั่นเอง โดยสิ่งที่สามารถช่วยป้องกันการผิวเราจากรังสีเหล่านั้นได้ก็คือ

-SPF : ปกป้องผิวเราจากรังสี UVA โดยปกติค่า SPF วิธีการดูให้เรานำเลข 30 คูณกับจำนวนเลขด้านหลังของค่า SPF ก็จะทำให้เราได้รู้ว่าครีมกันแดดตัวนั้นสามารถป้องกันแดดได้นานเท่าไหร่   

-PA : ช่วยปกป้องผิวจาก UVB โดยค่าบวกด้านหลังหมายถึงสามารถป้องกันรังสีได้กี่เท่า โดยหนึ่งบวกจะมีค่าเป็นสองเท่า ดังนั้นให้เอาจำนวนบวกคูณด้วยเท่าก็จะรู้ว่าครีมนั้นป้องกันแดดได้ดีแค่ไหนนั่นเอง

ครีมกันแดดแบบไหน เหมาะกับกีฬาประเภทใดบ้าง

1. ว่ายน้ำ : ควรเลือกครีมกันแดดชนิดสเปรย์ที่ซึมลงกับผิวได้เร็ว หรือเลือกจำพวกฟิล์มแพ็คที่มีนวัตกรรมการเคลือบผิวชั้นหน้าเป็นอย่างดี เพราะกีฬาชนิดนี้จะโดนทั้งน้ำคลอรีนและแสงแดดจัด

2. วิ่ง : ครีมกันแดดที่ใช้ควรเป็นชนิดป้องกันแสงแดดได้ในระยะยาว ควรมีทั้งค่า PA และค่า SPF สูง ๆ เพื่อยับยั้งแสงแดดที่จะทำลายผิว ทางที่ดีควรทาครีมกันแดดทิ้งไว้ก่อนออกสตาร์ท จะยิ่งช่วยเพิ่มประสิทธิภาพมากขึ้น

3. ปั่นจักรยาน : ควรเลือกครีมกันแดดชนิดเดียวกันกับกีฬาประเภทวิ่ง เพราะต้องโดนแสงแดดทั้งตัวและหน้า แต่ควรหลีกเลี่ยงแบบสเปรย์เพราะให้ระยะเวลาในการกันแดดที่น้อยกว่า และอาจทำให้ผิวมีอาการแพ้ได้หากอยู่กลางแจ้งนาน ๆ

4. ตีแบต : ครีมกันแดดของคนเล่นกีฬาประเภทนี้ควรเป็นชนิดที่ไม่เหนียวเหนอะหนะ เพราะส่วนใหญ่ไม่ค่อยโดนแดด และเน้นเล่นในยิมเป็นส่วนใหญ่ เน้นครีมกันแดดซึมลงผิวเพิ่มความคล่องตัวในการเคลื่อนไหว

การเล่นกีฬาถือเป็นกิจกรรมที่ดีและส่งเสริมให้สุขภาพร่างกายแข็งแรง แต่อย่าลืมว่าเรื่องของผิวพรรณสาว ๆ ก็ควรใส่ใจดูแลเช่นกัน ดังนั้นควรเลือกครีมกันแดดให้เหมาะสมเพื่อการออกกำลังกายที่สนุกมากขึ้น

Credit : https://pixabay.com/photos/summer-vacations-holidays-1599139/

การออกกำลังกายด้วยวิธีโยคะนั้น นอกจากจะเป็นการฝึกสมาธิแล้วยังช่วยส่งเสริมความยืดหยุ่นให้กับร่างกายเป็นอย่างมาก ลดปัญหาการปวดข้อ อาการตึงตามขา และคลายความตึงเครียดภายในร่างกายได้ “โยคะ” จึงเป็นกิจกรรมการออกกำลังกายอีกวิธีหนึ่งที่สาว ๆ ให้ความนิยมและหันมาสนใจกันเป็นอย่างมากเลยทีเดียว

โยคะ มีด้วยกันหลายประเภท เช่น โยคะร้อน โยคะเย็น เป็นต้น และมีอีกหนึ่งประเภทที่แตกกิ่งก้านสาขาออกมานั่นก็คือ “โยคะ ฟลาย” หรือ “Yoga Fly” ที่ใช้อุปกรณ์หลักอย่างผ้าเข้ามายึดไว้ตามร่างกายเพื่อดัดแปลงทำเป็นท่าออกกำลังกายต่าง ๆ เป็นกีฬาที่ผสมผสานระหว่างพิลาทีสกับยิมนาสติกเข้าไว้ด้วยกัน

ประโยชน์จากการเล่นโยคะฟลายมีด้วยกันหลายข้อ เช่น ช่วยเสริมสร้างความแข็งแรงของกระดูก, กระตุ้นการไหลเวียนของเลือดให้ดีขึ้น, ช่วยฝึกสมาธิ, คลายความเครียด และยังช่วยปรับรูปร่างให้เข้าที่มากขึ้น เป็นต้น ซึ่งประโยชน์เหล่านี้ล้วนแต่เป็นสิ่งเสริมสร้างที่ทำให้บุคลิกภาพและการใช้ชีวิตของสาว ๆ ดีขึ้น ถ้าหากทำไปนาน ๆ เป็นประจำจะสามารถลดน้ำหนักได้อีกด้วย

เตรียมตัวให้พร้อมก่อนเข้าคลาสโยคะฟลาย หัวจรดเท้าควรทำอะไรบ้าง

แน่นอนว่าก่อนไปเข้าคลาสก็ต้องศึกษาการแต่งตัวสักหน่อยว่ามีอะไรที่ควรเตรียมไปบ้าง เพราะกีฬาโยคะฟลายเป็นกีฬาที่ต้องอาศัยเทคนิคในการเล่น จึงจำเป็นต้องมีวิธีการแต่งตัวแบบเฉพาะ หรือการนำอุปกรณ์ไปเพิ่มเติมเพื่อป้องกันการบาดเจ็บ แต่ของเหล่านั้นจะมีอะไรบ้าง เราไปดูพร้อม ๆ กันเลย

1. เสื่อโยคะ

หากใครเล่นโยคะอยู่แล้วก็คงไม่ต้องเสียเวลาหาซื้อ แต่ถ้าหากไม่เคยเล่นมาก่อนก็สามารถตามหาเสื่อโยคะได้ง่าย ๆ ตามร้านขายอุปกรณ์กีฬา หรือตามในไอจีแบรนด์ดัง ๆ ก็มีเยอะแยะ ถ้าไม่อย่างนั้นก็ควรโทร.สอบถามที่โรงเรียนสอนว่ามีเตรียมไว้ให้หรือเปล่า ถ้ามีก็สบายไปเลยจ้า

2. ชุดสำหรับโยคะฟลาย

การเล่นโยคะฟลายควรที่จะต้องใส่กางเกงออกกำลังกายขายาวกับเสื้อสปอร์ตบราด้านในที่จะลู่รับไปกับสรีระ ที่สำคัญเสื้อที่ใส่ด้านนอกควรต้องเก็บชายให้เรียบร้อย เพื่อระหว่างการเล่นจะได้ไม่พันเข้ากับผ้าจนเกิดอุบัติเหตุ

3. รวบผม

การรวบผมถือเป็นอีกหนึ่งความสำคัญของการเริ่มเล่นกีฬาชนิดนี้ เพราะระหว่างที่เราใช้สมาธิในการห้อยโหนตัวอยู่บนผ้า ไม่ควรให้มีเส้นผมมาปรกบังใบหน้าเพื่อสร้างความรำคาญและทอนสมาธิเราให้สั้นลง

4. ถอดเครื่องประดับออกให้หมด

ระหว่างการเล่นไม่ควรมีเครื่องประดับใดสวมบนร่างกาย เพราะนอกจากจะเพิ่มน้ำหนักแล้วยังทำให้การเกี่ยวตัวอยู่บนผ้ายุ่งยากมากขึ้นนั่นเอง และอาจส่งผลให้เกิดอุบัติเหตุตามมาได้อีกด้วย

เหนือสิ่งอื่นใดของการเล่นโยคะฟลายคือการใช้สมาธิให้มาก ตั้งใจจดจำท่าจากครูฝึกให้ดี ไม่ควรทำเองหากยังไม่เคยมีประสบการณ์หรือยังไม่เคยเข้าคอร์สการฝึกสอนมาก่อน เพราะถือเป็นกีฬาเฉพาะทางที่ต้องมีผู้เชี่ยวชาญแนะนำ

Credit : https://pixabay.com/photos/coast-exercise-fitness-lifestyle-1834827/

ร้อน ๆ แบบนี้หลายคนคงคิดอยากจะไปกระโดดเล่นน้ำกันให้หนำใจเพื่อคลายความร้อนกัน ไม่ว่าจะเป็นฤดูไหน ๆ อากาศเมืองไทยก็ยังคงฮิตติดความร้อนกันอย่างต่อเนื่อง ซึ่งอากาศร้อน ๆ แบบนี้ผู้คนส่วนใหญ่ก็มักจะพาครอบครัวไปตากอากาศหรือผ่อนคลายกันที่ชายทะเล หรืออาจจะหาสระว่ายน้ำใกล้บ้านเพื่อลงแช่ในสระบรรเทาความร้อนกันบ้างแหละ ซึ่งการไปว่ายน้ำในแต่ละครั้งย่อมต้องเผชิญกับความร้อนที่มาพร้อมแสงแดด แต่สำหรับหลาย ๆ คนก็อาจจะสนุกจนหลงลืมการดูแลตัวเองก่อนลงสระ ซึ่งนั่นก็อาจจะทำให้ผิวถูกทำร้ายจากแสงแดดได้เลยนะ

ไอเทมที่ต้องพกติดตัวไว้เพื่อใช้ในการดูแลตัวเองก่อนลงสระ

                -ครีมกันแดด ลำดับแรกคงต้องพูดถึงครีมกันแดดกันก่อนเลย ไม่ว่าจะไปทะเลหรือสระว่ายน้ำ ยังไงก็ต้องพกครีมกันแดดติดตัวไปด้วยนะ ซึ่งการทาครีมกันแดดเพื่อป้องกันผิวถูกทำร้ายจากแสงแดดที่ถูกต้องนั้น ต้องทาก่อนออกไปสัมผัสกับแสงแดดอย่างน้อย 10 – 15 นาที เพื่อให้ครีมได้แทรกซึมลงสู่ผิวได้ลึกที่สุดซะก่อน ครีมกันแดดจึงจะทำงานได้เต็มพิกัดมากขึ้น ซึ่งผิวกายก็จะได้รับการปกป้องมากขึ้นนั่นเอง เพราะการเล่นน้ำจนความร้อนคลายลง แทนที่ด้วยความเย็น นั่นจึงทำให้บางครั้งเราหลงลืมไปว่าร่างกายกำลังสัมผัสกับแสงแดดอยู่ ทางที่ดีก่อนลงว่ายน้ำควรทาครีมกันแดดให้เรียบร้อยกันเสียก่อนนะ

                -พกหมวกหรือแว่นตากันแดด เพราะสระว่ายน้ำหรือแม้แต่ชายทะเล จะอยู่ที่โล่งกลางแจ้ง ซึ่งจะทำให้เราได้รับแสงจ้ามากกว่าสถานที่ในร่ม ดังนั้นแม้แต่คุณจะยังไม่ได้ลงว่ายน้ำในสระก็ตาม ก็ยังต้องป้องกันเบื้องต้นด้วยการสวมแว่นตาดำ หรือหาหมวกปีกกว้างสักใบมาสวมใส่ด้วยนะ อย่างน้อยก็เป็นการปกป้องดวงตาจากแสงจ้าในระดับเบื้องต้นได้บ้าง หรืออาจจะผ้าคลุมเนื้อผ้าบาง ๆ คลุมร่างกายไว้ก่อนลงสระเพื่อลดการให้ผิวสัมผัสกับแสงแดดนั่นเอง

                -ดื่มน้ำมาก ๆ เมื่อว่ายน้ำเสร็จ เพราะการต้องอยู่ในที่โล่งนาน ๆ ย่อมทำให้ร่างกายสูญเสียน้ำจากร่างกายผ่านทางเหงื่อ รวมทั้งการออกกำลังกายด้วยการว่ายน้ำก็ยังเป็นการเผาผลาญพลังงานร่างกายด้วย แม้จะไม่เห็นเหงื่อออกก็ตาม เพราะเหงื่อจะสลายไปกับน้ำที่ร่างกายสัมผัสไปแล้ว ดังนั้นจึงควรพกน้ำดื่มที่สะอาดติดตัวไปด้วยในระหว่างการว่ายน้ำ เพราะการดื่มน้ำนับว่าเป็นการสร้างความชุ่มชื้นให้กับร่างกายจากการสูญเสียพลังงานได้ด้วย

                ดังนั้นการผ่อนคลายด้วยการว่ายน้ำที่ทะเล หรือแม้แต่สระว่ายน้ำใกล้บ้านก็ยังต้องคำนึงถึงสิ่งเหล่านี้ที่ควรพกติดตัวไปด้วยทุกครั้ง เป็นการปกป้องร่างกายของเราในเบื้องต้น เพื่อการเล่นน้ำของคุณจะได้สนุกในทุกทริปอย่างปลอดภัย ไม่ว่าจะว่ายน้ำเพราะการฝึกซ้อม หรือแค่สร้างความผ่อนคลายก็ตาม ยังไงก็ต้องดูแลตัวเองให้ดีที่สุด เพื่อการว่ายน้ำอย่างสนุกและปลอดภัยด้วยนั่นเอง

ไม่ว่าจะออกกำลังกายหรือไปฟิตเนส ย่อมต้องมีอุปกรณ์หรืออย่างน้อยชุดออกกำลังกายก็ต้องมีความพร้อมสำหรับกิจกรรมนั้น ๆ กันบ้างล่ะ เพราะการออกกำลังกายเพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ดีนั้น ไม่ใช่เพียงแค่นึกทำก็ทำเท่านั้น เพราะนั่นก็เท่ากับว่าคุณไม่มีการเตรียมความพร้อมมาก่อน จึงทำให้ผลลัพธ์ที่ออกมาไม่ตรงกับใจที่ต้องการนั่นเอง วันนี้มาส่องอุปกรณ์ในการออกกำลังกายแต่ละชนิดกันดีกว่าว่า สิ่งไหนแมตซ์กับสิ่งไหนและแยกจากกันไม่ได้เลย

การออกกำลังกายกับอุปกรณ์ที่ต้องมีสำหรับกิจกรรมนั้น ๆ มีดังนี้ 

                -การวิ่ง หากคุณกำลังคิดจะเริ่มต้นการวิ่งออกกำลังกายอย่างจริงจังแล้วล่ะก็ สิ่งที่ต้องนึกถึงเป็นลำดับแรกเลยก็คือ รองเท้าวิ่งที่เป็นพร็อพหลักสำหรับการวิ่งนั้น ๆ เพราะการวิ่งออกกำลังกายเป็นอีกหนึ่งประเภทของการออกกำลังกายที่เกิดแรงกระแทกในการวิ่งได้มากกว่าการออกกำลังกายด้วยวิธีอื่น ๆ ดังนั้นคุณจึงควรพิถีพิถันในการเลือกรองเท้าวิ่งเพื่อให้เหมาะสมกับการวิ่งด้วย เพื่อเป็นการเซฟตัวคุณเองที่อาจได้รับบาดเจ็บจากแรงกระแทกที่เกิดขึ้นจากการวิ่งได้ และยังต้องไม่ใช่เพียงแค่รองเท้าผ้าใบธรรมดา ๆ ที่คิดจะหยิบมาสวมใส่วิ่งเท่านั้นนะ เพราะต้องเป็นรองเท้าที่ถูกออกแบบมาเพื่อการวิ่งโดยเฉพาะ หากเป็นรองเท้าผ้าใบแบบธรรมดาก็อาจไม่ทนต่อแรงกระแทกได้นั่นเอง

                -หมวกคลุมผมและแว่นตากันน้ำกับการว่ายน้ำ เพราะการว่ายน้ำย่อมต้องมีการดำดิ่งหรืออยู่ใต้น้ำ ดังนั้นหากคุณไม่มีการเตรียมพร้อมสำหรับอุปกรณ์ว่ายน้ำแล้วล่ะก็ อาจทำให้คุณไม่สนุกกับการออกกำลังกายว่ายน้ำก็เป็นได้ เพราะการไม่ใส่แว่นตากันน้ำอาจทำให้คุณระคายเคืองตาจากการที่ดวงตาต้องสัมผัสกับคลอรีนในน้ำได้ หรือการไม่ใส่หมวกคลุมผมก็อาจจะทำให้คุณไม่สะดวกในการออกท่วงท่าว่ายน้ำก็ได้ อีกทั้งการใส่หมวกคลุมผมยังใส่เพื่อสุขอนามัยที่ดีในการว่ายน้ำต่อได้อีกด้วย

                -เสื่อหรือเบาะออกกำลังกาย กับการเล่นซิทอัพ เพราะการออกกำลังกายด้วยท่วงท่าที่จำเป็นต้องมีการนอนราบหรือนั่งกับพื้นจำเป็นต้องมีการเซฟส่วนของร่างกายที่สัมผัสกับพื้นโดยตรง เนื่องจากต้องมีการเคลื่อนไหวร่างกายส่วนต่าง ๆ บนพื้นราบที่มีลักษณะแข็ง จึงอาจเกิดการบาดเจ็บจากการสัมผัสกับพื้นแข็ง ๆ ได้ ดังนั้นการเล่นท่าซิทอัพหรือท่าอื่นที่คล้ายคลึงกัน จึงควรมีเสื่อหรือเบาะออกกำลังกายเพื่อป้องกันแรงกระแทก แต่หากสถานที่ในการซิทอัพของคุณมีลักษณะพื้นที่ไม่แข็งจนเกินไป เช่น บนสนามหญ้า หรือพื้นนุ่ม ๆ ก็อาจไม่จำเป็นต้องมีเบาะหรือเสื่อออกกำลังกายก็ได้ แต่การเล่นท่วงท่าเหล่านี้บนพื้นที่มีลักษณะนุ่มก็จะได้ผลลัพธ์ไม่ดีเท่ากับการออกกำลังกายบนพื้นราบนะ

                สิ่งสำคัญในการออกกำลังกายแต่ละครั้ง ยังต้องคำนึงถึงความปลอดภัยและการเซฟร่างกายจากอาการบาดเจ็บที่อาจเกิดขึ้นจากการออกกำลังกายได้ ดังนั้นจึงไม่ควรมองข้ามอุปกรณ์ที่เป็นตัวป้องกันด้วย เพื่อให้การออกกำลังกายนั้น ๆ ของคุณมีความสนุกที่มาพร้อมความแข็งแรงของร่างกายนั่นเอง

การออกกำลังกายในปัจจุบันนี้ไม่เพียงแต่แค่เพื่อการสร้างความแข็งแรงให้แก่ร่างกายเท่านั้น แต่ยังเป็นการเน้นความฟิตแอนด์เฟิร์ม สร้างกล้ามเนื้อต่าง ๆ และร่องท้องให้เห็นแบบชัด ๆ กันไปเลยอีกด้วย ดังนั้นท่าทางหรือประเภทของการออกกำลังกายจึงเปลี่ยนไปจากอดีตค่อนข้างมาก ไม่เพียงแค่เน้นการรีดไขมันออกไปจากร่างกายเท่านั้น แต่ยังต้องเป็นการเน้นการออกกำลังกายเฉพาะส่วนเพื่อสร้างมัดกล้ามเนื้อให้เห็นได้ชัดเจนอีกด้วย

เพราะเหตุใดผู้หญิงจึงหันมาเน้นการออกกำลังกายที่เน้นความลีนเพื่อโชว์ร่องท้องกันนะ

                -เพื่อความมั่นใจในหุ่นสวยของตัวเอง เพราะความลีนของร่างกายที่มาพร้อมร่องท้องแบบชัด ๆ นั้น จะทำให้ผู้หญิงมีความมั่นใจเพิ่มขึ้นอีกหลายเท่าตัว นอกจากจะทำให้ร่างกายแข็งแรง ไม่ว่าจะทำกิจกรรมอะไรก็มีความคล่องแคล่วมากขึ้นกว่าเดิม ด้วยท่วงท่าและร่างกายที่มีความปราดเปรียวขึ้น จึงทำให้ผู้หญิงมีความมั่นใจมากขึ้นตามไปด้วย ดังนั้นจึงทำให้ผู้หญิงกล้าที่จะเลือกหยิบเสื้อผ้าที่เคยถูกเก็บค้างไว้ในตู้เสื้อผ้า นำกลับมาสวมใส่ได้แบบมั่นใจอีกครั้ง ไม่ว่าจะเป็นเสื้อครอป หรือเอวลอยแค่ไหน ก็มั่นใจได้ไม่มีหวั่นกันเลย

                -เป็นการแสดงออกอีกทางหนึ่งว่าผู้หญิงสมัยนี้ก็มีความสามารถไม่แพ้ผู้ชาย เพราะการออกกำลังกายที่เน้นความลีนและกล้ามเนื้อร่องท้อง รวมถึงการเน้นโชว์มัดกล้ามเนื้อส่วนอื่น ๆ นั้น จะต้องมีความพยายามในการออกกำลังกายเฉพาะส่วนมากกว่าการออกกำลังกายโดยทั่ว ๆ ไป ซึ่งในอดีตส่วนใหญ่จะเห็นได้เพียงผู้ชายที่นิยมการเล่นกล้ามเท่านั้น แต่ในปัจจุบันที่ผู้หญิงมีความคล่องแคล่วและมั่นใจมากขึ้น จึงหันมาเล่นการออกกำลังกายเฉพาะส่วนที่เลียนแบบผู้ชายกันมากขึ้น จึงเห็นได้ชัดว่าไม่ได้มีเพียงแค่ผู้ชายเท่านั้นที่สามารถมีร่องท้องหรือกล้ามเนื้อส่วนต่าง ๆ ซึ่งนี่ก็เป็นเหตุผลยืนยันได้อีกข้อหนึ่งว่าผู้หญิงสมัยนี้ก็มีความเก่งและเท่าเทียมกับผู้ชายไม่แพ้กัน

                -สร้างความภูมิใจให้มากขึ้น จะเห็นได้ว่าสาว ๆ หลายคนมักมีเป้าหมายสำหรับการออกกำลังกายว่า นอกจากจะเป็นการหันมาดูแลตัวเองเพื่อลดน้ำหนัก หรือเพื่อการสร้างความแข็งแรงให้กับร่างกายเท่านั้น แต่สาว ๆ ที่เคยอ้วนหรือหุ่นอวบกันมาก่อน มักจะต้องการเอาชนะสิ่งที่ตัวเองเคยพ่ายแพ้มาก่อน เพื่อแสดงให้คนอื่น ๆ เห็นว่านอกจากจะลดน้ำหนักจากการออกกำลังกายได้แล้ว ยังเพิ่มความมวลกล้ามเนื้อพร้อมหุ่นสวย ๆ ลีน ๆ ได้ต่างจากเดิมอีกด้วย ซึ่งนั่นจะทำให้พวกเธอได้รับคำชื่นชมมากกว่าการออกำลังกายเพียงแค่ลดน้ำหนักเท่านั้น

                ดังนั้นการออกกำลังกายในปัจจุบันสำหรับสาว ๆ จึงไม่ใช่เพียงแค่ออกกำลังกายเพื่อลดน้ำหนักหรือกระชับสัดส่วนเท่านั้น แต่ยังอัพเลเวลเพื่อสร้างมัดกล้ามเนื้อ โชว์ร่องท้องพร้อมซิกแพ็คเนียน ๆ ไม่แพ้ผู้ชายกันเลยทีเดียว เรียกได้ว่าไม่มีควรยอมใครกันแล้ว ถ้าผู้ชายทำได้ผู้หญิงก็ทำได้เหมือนกันนะ

เทรนด์การดูแลตัวเองเพื่อสุขภาพและร่างกายที่แข็งแรงกำลังเป็นที่นิยมอย่างมากในปัจจุบัน เพราะนอกจากจะเป็นการสร้างเสริมให้ร่างกายแข็งแรง ห่างไกลจากโรคภัยต่าง ๆ แล้ว ยังทำให้บุคลิกภาพของหนุ่ม ๆ สาว ๆ ดูดีขึ้นอย่างเห็นได้ชัดเลยทีเดียว อีกทั้งยังเป็นการใช้เวลาว่างให้เกิดประโยชน์มากกว่าจะออกไปกิน เที่ยวหรือดื่ม อีกหนึ่งตัวการที่เป็นบ่อนทำลายสุขภาพกันอีกด้วย

ทำไมการปั่นจักรยานเพื่อสุขภาพจึงอินเทรนด์อีกครั้ง

                -ได้ความรื่นรมย์ระหว่างทาง เนื่องจากการปั่นจักรยานเพื่อสุขภาพนั้น จะต้องใช้พื้นที่และระยะทางในการออกกำลังกาย ซึ่งต่างจากการออกกำลังในฟิตเนสหรือสวนสาธารณะที่ไม่ต้องการพื้นที่มากนัก แต่การปั่นจักรยานจำเป็นต้องมีพื้นที่และระยะทางในการปั่น ดังนั้นจึงทำให้ผู้ที่ปั่นจักรยานได้เปลี่ยนบรรยากาศด้วยการชื่นชมสิ่งแวดล้อมระหว่างทางด้วย จึงทำให้ลดความเบื่อหน่ายจากการออกกำลังกายได้บ้าง หรือได้สัมผัสกับสิ่งแวดล้อมระหว่างทาง จึงทำให้คลายความกังวลกับใจที่ต้องจดจ่อในการปั่นซึ่งจะทำให้ลืมความเหน็ดเหนื่อยไปได้บ้างนั่นเอง

                -ได้เคลื่อนไหวร่างกายทุกส่วนในเวลาเดียวกัน จึงทำให้ร่างกายและกล้ามเนื้อทุกส่วนได้ออกกำลังกายไปพร้อม ๆ กัน ดังนั้นจึงทำให้เกิดการเผาผลาญพลังงานได้มากขึ้น อีกทั้งการปั่นจักรยานยังลดการบาดเจ็บที่เกิดจากแรงกระแทกที่อาจทำให้เกิดอาการบาดเจ็บได้ จึงเป็นเหตุผลที่คนที่มีรูปร่างอ้วนท้วม หรือรูปร่างใหญ่ก็สามารถออกกำลังกายด้วยการปั่นจักรยานได้ง่ายมากกว่าการออกกำลังด้วยวิธีอื่น ๆ

                -ได้การรวมกลุ่มแก๊งค์เพื่อนัดกันปั่นไปยังสถานที่ต่าง ๆ การปั่นจักรยานเพื่อสุขภาพจึงเป็นมากกว่าแค่การออกกำลังกาย เพราะเราจะเห็นได้บ่อยครั้งที่มีกลุ่มแก๊งค์นัดกันปั่นจักรยานแบบทางไกลยังสถานที่เป็นแหล่งธรรมชาติต่าง ๆ นอกจากจะได้สุขภาพที่ดีขึ้นแล้ว ยังได้การรวมตัวเป็นหมู่คณะสำหรับคนคอเดียวกันที่ชื่นชอบกิจกรรมแบบเดียวกันอีกด้วย เรียกได้ว่าปั่นจักรยานทางไกลเพื่อการออกกำลังกายไปพร้อมกับการชื่นชมธรรมชาติระหว่างทางที่อาจจะยังไม่เคยได้สัมผัส พร้อมทั้งการผจญสิ่งต่าง ๆ ระหว่างทางร่วมกับเพื่อนร่วมแก๊งค์ที่ทำให้ได้สัมผัสกับบรรยากาศใหม่ ๆ ต่างจากการออกกำลังกายโดยทั่ว ๆ ไปนั่นเอง

                การปั่นจักรยานจึงนับว่าเป็นอีกหนึ่งกิจกรรมที่กำลังอินเทรนด์ในหมู่นักปั่นเท้าไฟต่าง ๆ เพราะจากเหตุผลที่กล่าวมานั้น นอกจากจะทำให้พวกเขาได้สุขภาพที่ดีพร้อมกับบุคลิกที่ดูดีขึ้นแล้ว ยังทำให้ได้สัมผัสสิ่งใหม่ ๆ ที่แตกต่างจากการออกกำลังกายด้วยวิธีอื่นอีกด้วย ซึ่งในตัวเมืองใหญ่ ๆ จะเห็นได้บ่อยครั้งที่บรรดาหนุ่ม ๆ ออฟฟิศหลายคนที่มีที่พักไม่ไกลจากที่ทำงานมากนัก มักจะเลือกการปั่นจักรยานไปทำงานในยามเช้าตรู่ เพราะนอกจากจะเป็นการออกกำลังกายที่ดีแล้ว ยังหลีกเลี่ยงรถติดได้อีกด้วย